เครื่องตัดไฟเบอร์ กับการเลือกใช้แผ่นตัด

เป็นเนื้อหาของบทความหรือสินค้าโดยละเอียด

กรุณาใส่ข้อความ …

วันนี้เอาใจพี่ๆ ช่าง และร้านค้า ที่กำลังมองหาเครื่องตัดไฟเบอร์กันบ้าง ซึ่งในปัจจุบันมีวางขายกันโดยทั่วไปมากมายเต็มท้องตลาด ยี่ห้อใหม่ๆ รุ่นใหม่ๆ มาให้เห็นไม่เว้นแต่ละวัน แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า เครื่องไหนดี ไม่ดี หรือเหมาะกับการทำงานของเราหรือไม่

เลือกเครื่องตัดอย่างไรให้คุ้มทุน

เครื่องตัดเหล็กไฟเบอร์ถือเป็นเครื่องมือช่างพื้นฐานสำหรับงานเหล็ก สแตนเลส ซึ่งมีมากมายหลายแบบให้เลือกในท้องตลาดปัจจุบัน ในการเลือกซื้อควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้

 1. ความเหมาะสมในการใช้งาน ก่อนจะซื้อสินค้า เราต้องรู้ก่อนว่า จะเอาไปใช้งานอะไร ตัดวัสดุประเภทไหน มีความหนาเท่าไหร่ และต้องการใช้งานหนักหน่วงเพียงใด แล้วถึงจะรู้ว่า ควรใช้เครื่องตัดกำลังขนาดไหนถึงจะเหมาะกับงานของเรา

2. คุณภาพของเครื่องตัด เมื่อรู้ว่าจะใช้งานอะไรแล้ว ทีนี้ก็มาดูคุณภาพของเครื่องตัดควรเลือกยี่ห้อที่ไว้ใจได้เพราะส่วนใหญ่จะแจ้งกำลังเครื่องไว้สูงเช่น 2,000 วัตต์ จนถึง 2,500 วัตต์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกำลังวัตต์หลอก  (วิธีพิสูจน์อย่างง่ายๆ คือกำลัง2,000 วัตต์ ควรมีน้ำหนัก 16 กก.ขึ้นไป) อาจจะต้องดูที่สภาพภายนอกเช่นโครงมอเตอร์ต้องเป็นอลูมิเนียมฉีดอย่างหนา ทั่วไปในท้องตลาดจะเป็นเหล็กแผ่นบางๆ ม้วนขึ้นรูป มักเป็นสนิมและผุกร่อนเสียเร็วมาก  ฐานเครื่องต้องเป็นเหล็กอย่างหนาขึ้นรูป ต้องมี ความแข็งแรงคงทน      

เลือกกำลังมอเตอร์  ที่ถูกต้องกับงานของคุณคือ

กำลังเครื่องไม่เกิน1,200วัตต์ (ส่วนใหญ่ในท้องตลาดจะระบุว่า2,000วัตต์ ถึง2,500วัตต์) ตัดเหล็กตันได้ไม่เกิน 12มม.

กำลังเครื่อง 1,800วัตต์ ขึ้นไป ตัดเหล็กตันได้ไม่เกิน15มม.

กำลังเครื่อง 1,850วัตต์ ขึ้นไป ตัดเหล็กตันได้ไม่เกิน20มม.

กำลังเครื่อง 2,000วัตต์ ขึ้นไป ตัดเหล็กตันได้ไม่เกิน36มม.

 

3.การทดสอบใช้เครื่อง หากมีโอกาสได้ทดสอบการใช้ ให้ตรวจสอบใบตัดไฟเบอร์โดยดูรอยแตกหรือรอยร้าวการจับยึดชิ้นงานบนปากกาต้องจับให้แน่น แล้วเริ่มเดินเครื่องตัดไฟเบอร์และค่อยๆ กดให้ใบตัดไฟเบอร์สัมผัสกับชิ้นงาน โดยใช้อัตราป้อนอย่างเหมาะสมจนกระทั่งชิ้นงานขาด

 

เลือกใบตัดอย่างไรให้คุ้มค่า

นอกจากการเลือกเครื่องแล้ว การเลือกใบตัดก็ถือเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียวเชียวค่ะ เพราะใบตัดเป็นสิ่งสำคัญที่สัมผัสกับวัตถุโดยตรง หากเครื่องตัดคุณภาพดี แต่ใบตัดคุณภาพไม่ดี งานก็ไม่สามารถออกมาดีได้ค่ะ ซึ่งใบตัดไฟเบอร์ในท้องตลาดจะมีหลายขนาด ตั้งแต่ 4 นิ้วขึ้นไป ซึ่งจะมีการใช้งานก็จะแตกต่างกันออกไปด้วยเช่นกัน

-ใบตัด 4 นิ้ว เหมาะสำหรับ เอาไว้ตัดงานเหล็กชิ้นเล็ก ไม่เหมาะสำหรับกับงานชิ้นใหญ่เพราะจะทำให้แผ่นแตกง่ายอันตรายต่อผู้ใช้งาน

-ใบตัด 7 นิ้ว เหมาะสำหรับงานกลาง และไม่ใหญ่มาก

-ใบตัด 14นิ้ว และ 16นิ้ว นิยมเอาไปใส่แท่นตัดเล็ก จะตัดได้ตั้งแต่งานเล็กๆ จนไปถึงงานใหญ่ ที่เหมาะสมกับขนาดขนาดของใบตัด

นอกจากขนาดแล้ว ใบตัดไฟเบอร์ ยังถูกจำแนกออกเป็นเกรดต่างๆ อีกด้วยค่ะ

 

เกรด A อลูมิเนียมออกไซด์ เหมาะสำหรับตัดเหล็ก ส่วนใหญ่ในท้องตลาด จะเป็นสีดำ กับสีแดง

เกรดWA (White Aluminum Oxide)เหมาะสำหรับ ตัดสแตนเลส เพราะว่าตัวนี้ จะมีความคมสูง ซึ่งสแตนเลส คือ โลหะผสมระหว่างเหล็กและคาร์บอน ผิววัตถุเคลือบด้วยตัวโครเมียมโครม เป็นผิวมัน เมื่อเกิดความร้อน จะมีรอยไหม้เป็นสีดำ ต้องเอากระดาษทรายเรียงซ้อนและผ้ามาขัด สมัยก่อนช่างมักจะใช้แผ่นเกรด A ไปตัด และจะดำ และแถ จึงมีการพัฒนาทำเกรดWA ขึ้นมา ซึ่งจะคมมาก เมื่อโลหะสัมผัสถึงแผ่นแล้วจะขาดทันที โดยยังไม่ทันเกิดความร้อน (เกิดความร้อนบ้างนิดหน่อย ไม่เหมือนกับใช้ A จะดำมาก) ปัจจุบันนี้ มีการนิยมเอา WA ไปตัดเหล็กด้วย ซึ่งทำให้ตัดดีมากขึ้นไปอีก แต่ต้นทุนจะสูงกว่า เพราะ WA มีราคาแพงกว่า

ข้อควรสังเกต: แผ่น WA วัตถุดิบจะเป็นทรายสีขาว แต่ที่นิยมผลิตมาบนท้องตลาดจะเป็นสีเขียว ซึ่งแผ่น WA เป็นที่นิยมอย่างสูงมากในหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดปรากฏการณ์ เขียวทั้งแผ่นดิน และเกิดแผ่น WA ของปลอม ซึ่งก็คือการนำวัตถุดิบที่ไม่ใช่ WAมาผสมสีเขียว

                ทั้งหมดนี้เป็นเพียงข้อแนะนำเบื้องต้นคร่าวๆ สำหรับการเลือกซื้อแท่นตัดเหล็กและใบไฟเบอร์นะคะ ที่สำคัญคือต้องดูว่า เรานำไปใช้งานอะไร ใช้ตัดวัตถุหนาเท่าไหร่ งานหนัก งานเบา ใช้บ่อย หรือนานๆ ใช้สักครั้ง

สำหรับเครื่องตัดไฟเบอร์ของเรานั้น มีให้เลือกหลายพลัง ไม่ว่าจะเป็น พลังมด พลังอ๋อง พลังม้า พลังยักษ์  ให้เลือกตามวัสดุและความต้องการของการใช้งาน รวมไปถึงแผ่นตัดไฟเบอร์ของเรา เป็นแผ่นเกรด WA ของแท้ คุณภาพสูง ใช้งานได้ดี คุ้มค่า แน่นอนค่ะ 

...............................................

Tag: เครื่องมือช่าง ,แท่นตัดไฟเบอร์ ,แผ่นตัด ,ตัดสแตนเลส ,ตัดไฟเบอร์ ,ตัดเหล็ก ,ราคาถูก ,การเลือกซื้อ ,การใช้เครื่องมือ

Visitors: 88,126